แขวงจำปาสัก ร่วมมือ ม.ราชภัฏอุบล ฯ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวลาวใต้ เพื่อพัฒนาสุขภาวะที่ดี

แขวงจำปาสัก ร่วมมือ ม.ราชภัฏอุบล ฯ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวลาวใต้ เพื่อพัฒนาสุขภาวะที่ดี

เช้าวันนี้ (16 ธ.ค. 2565) นายชลธี ยังตรง  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในการแถลงข่าว “โครงการกีฬาและการท่องเที่ยว เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน” ของรองหัวหน้าแผนกศึกษาธิการและกีฬา แขวงจำปาสัก และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี  ซึ่งจัดโดยแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ณ ด่านพรมแดนช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

          แขวงจำปาสัก ดำเนินนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 คลี่คลาย ซึ่งในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวลาวใต้ จึงร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานี โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จัด “โครงการกีฬาและการท่องเที่ยว เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน” ระหว่างวันที่  14 – 16 มกราคม 2566 นี้ โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายต่าง ๆ ทั้งแรลลี่รถยนต์จากด่านวังเต่า – ปราสาทวัดพู ฟุตบอล เปตอง วิ่งมินิมาราธอน วิ่งฟันรัน วิ่งเทรล ปั่นจักรยาน เส้นทางไปปราสาทวัดพู เมืองจำปาสัก ชมทิวทัศน์ที่สวยงามสองข้างทางสู่มรดกโลก เน้นออกกำลังกายเพื่อสุขภาวะที่ดีมากกว่าการแข่งขันเพื่อแพ้ – ชนะ ซึ่งการจัดครั้งนี้มีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ช่วยเหลือสนับสนุนในการรับสมัคร การสนับสนุนบุคลากร และช่วยประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความใกล้ชิดทั้งในระดับรัฐบาล เอกชน และประชาชน มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ หลากหลายสาขา เพื่อก้าวไปสู่ “ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาอย่างยั่งยืน”อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมความร่วมมือและการพัฒนาต่าง ๆ ระหว่างกันมีข้อจำกัดในการปฏิบัติ จวบจนปัจจุบันที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในภูมิภาคมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้น ถือเป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นในการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างกัน “จังหวัดอุบลราชธานี เป็นประตูการค้าสู่อินโดจีน เป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมทางบก ระหว่างไทย – ลาว – กัมพูชา ตามเส้นทางอุบลราชธานี – จำปาสัก – อัตตะปือ – สตรึงเตรง (กัมพูชา) และจุดเชื่อมต่อไทย – ลาว – เวียดนาม โดยเชื่อมต่อไทยกับทะเลจีนใต้ ตามเส้นทางอุบลราชธานี – จำปาสัก – ดานัง – เว้ การส่งเสริมการท่องเที่ยวลาวใต้นี้ จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัด ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางผ่านเข้าสู่ลาวใต้ ทั้งการคมนาคม โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในจังหวัดจะได้รับประโยชน์ไปพร้อมกัน”

ด้าน นายภูวง อาภัย รองหัวหน้าแผนกศึกษาธิการและกีฬา แขวงจำปาสัก ในฐานะผู้แทนเจ้าแขวงจำปาสัก ให้ข้อมูลว่า “แขวงจำปาสัก มีศักยภาพที่จะพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจอย่างสูง  เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แขวงสามารถผลิตพืชผลทางเกษตรได้เป็นอย่างดี ทั้งข้าว เมล็ดกาแฟ ผักผลไม้ และพืชไร่ต่าง ๆ นอกจากนี้ แขวงจำปาสักมีศักยภาพสูงมากในด้านการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวมากกว่า 95 แห่ง ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางประวัติศาสตร์และทางวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ปราสาทหินวัดพู ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่บนเนินเขาพูป่าสัก เป็นเทวสถานของขอมคล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 12 เพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าและประกอบพิธีทางศาสนาตามลัทธิพราหมณ์ – ฮินดู นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย ได้แก่ น้ำตกคอนพะเพ็ง หรือไนแองการาแห่งเอเชีย น้ำตกหลี่ผี น้ำตกตาดฟาน น้ำตกผาส้วม ปลาโลมา น้ำจืดที่เวินคาม ดอนโขง ฯลฯ มีโรงแรมและบ้านพักเพียงพอรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก”

ส่วน รองศาสตราจารย์ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้บริหาร ข้าราชการ ประชาชน และนักเรียนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาศึกษาต่อทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกจำนวนมาก ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว  หลายท่านได้รับผิดชอบตำแหน่งหน้าที่การงานที่สำคัญ ทั้งในภาครัฐ และเอกชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเฉพาะในพื้นที่แขวงจำปาสัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรของแขวงกับมหาวิทยาลัย ฯ เกิดขึ้นอย่างแน่นแฟ้น นำไปสู่ความร่วมมือด้านการศึกษาและพัฒนาต่าง ๆ โดยมีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกันหลายฉบับ จากการที่แขวงจำปาสักมีนโยบายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาสุขภาวะที่ดีในครั้งนี้ จึงร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ฯ เพื่อจัดการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาวะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ออกกำลังกายและท่องเที่ยวชมทัศนียภาพที่สวยงามของแขวงจำปาสัก ซึ่งจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัวและมีพฤติกรรมที่ดีด้านการออกกำลังกายและพัฒนาสุขภาวะ

มหาวิทยาลัย ฯ สนับสนุนโครงการโดยจะเป็นจุดรับสมัครกิจกรรมในประเทศไทย รวมทั้งมหาวิทยาลัย ฯ จะนำคณาจารย์และนักศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา การท่องเที่ยวและการโรงแรม การจัดการ และธุรกิจระหว่างประเทศ ฯลฯ เข้าไปร่วมกับทีมจัดของแขวงจำปาสัก ทั้งมหาวิทยาลัยจำปาสัก วิทยาลัยเทคนิคจำปาสัก วิทยาลัยการเงินภาคใต้ และแผนกศึกษาธิการและกีฬา แขวงจำปาสัก ซึ่งจะได้ประโยชน์ในการบูรณาการการเรียนการสอนกับการทำงานจริง เพิ่มพูนประสบการณ์การทำงานให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ทั้งนักศึกษาชาวไทยและนักศึกษาชาวลาว”

โครงการกีฬาและการท่องเที่ยว เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน แขวงจำปาสัก จะจัดกิจกรรมออกกำลังกายพัฒนาสุขภาวะที่ดี ประกอบด้วย

  • แรลลี่รถยนต์ เส้นทางด่านวังเต่า – ปราสาทวัดพู วันที่ 14 มกราคม 2566
  • วิ่งมินิมาราธอน ระยะ 10 กม. ไปยังปราสาทวัดพู เช้าวันที่ 15 มกราคม 2566
  • วิ่งฟันรัน ระยะ 5 กม. ไปยังปราสาทวัดพู เช้าวันที่ 15 มกราคม 2566
  • วิ่งเทรล ระยะ 10 กม. ไปยังปราสาทวัดพู เช้าวันที่ 15 มกราคม 2566
  • ปั่นจักรยาน ระยะ 10 กม. ไปยังปราสาทวัดพู เช้าวันที่ 15 มกราคม 2566
  • ฟุตบอล ระหว่างวันที่ 14 – 16 มกราคม 2566 ณ สนามฟุตบอล แขวงจำปาสัก
  • เปตอง ระหว่างวันที่ 15 – 16 มกราคม 2566 ณ สนามเปตอง แขวงจำปาสัก

นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่กองสวัสดิการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี หรือที่เว็บไซต์ runloas2023.ubru.ac.th จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม นี้ ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ facebook fan page: UBRU วิ่งลาว 2023 หรือโทร 0 4535 2000 ต่อ 1980